Daily Archives: April 18, 2012

Come Rain, Come Shine(2011)

พระเอกกำลังขับรถพานางเอกไปส่งที่สนามบิน สองคนคุยเรื่องงานกันไปได้ซักพักพระเอกเป็นสถาปนิกบอกจะย้ายกลับมาทำงานที่บ้านเพราะนางเอกก็ทำงานอยู่กับบ้าน อยู่ๆนางเอกก็ขอเลิกและบอกจะย้ายออกเพราะมีคนอื่น ตัดมาที่บ้านในวันที่ฝนตกแม่นางเอกโทรมาประมาณว่าน่าจะทบทวนดูให้ดี พระเอกช่วยนางเอกแพ็คถ้วยกาแฟที่นางเอกซื้อมาสำหรับใช้ในโอกาสพิเศษแต่ยังไม่เคยได้ใช้ นางเอกพยายามจะปิดประตูระเบียงเพราะฝนสาดแต่ปิดไม่ได้ พระเอกบอกนางเอกเรื่องจองโต๊ะที่ร้านอาหารไว้สำหรับมื้อเย็น นางเอกขอให้พระเอกช่วยปิดประตูพระเอกก็ปิดอย่างง่ายมีเคล็ดลับคือต้องเลื่อนถอยหลังนิดนึงก่อนแล้วค่อยปิดใหม่ก็จะปิดได้แต่นางเอกก็ไม่เคยจำ จากนั้นนางเอกก็แยกไปเก็บของ นางเอกอยากดื่มกาแฟพระเอกก็ชงให้แล้วแกะแก้วที่เพิ่งแพค 2 ชุดมาใช้

พระเอกลงมาที่ชั้นใต้ดินนางเอกตามลงมาเจอรูปปั้นสุนัขที่พระเอกเคยปั้นให้แต่ขามันหักนางเอกจะเอาไปด้วยพระเอกบอกจะปั้นให้ใหม่แต่นางเอกยืนยันจะเอาตัวนั้น นางเอกขอให้พระเอกชงกาแฟเพิ่มพระเอกก็ชงให้ นางเอกชวนกินมัฟฟินพระเอกไม่อยากกินแต่สุดท้ายก็กิน พระเอกเอาใจนางเอกสารพัดทั้งจุดบุหรี่ให้นางเอกก็ทุบตีพระเอกและว่าพระเอกดีเกินไป ต่อมามีลูกแมวหลงมาที่บ้าน พระเอกออกไปจับเลยถูกแมวข่วน เพื่อนบ้านคู่สามีภรรยามาตามหาแมวพระเอกเลยเชิญเข้าบ้าน เพื่อนบ้านบอกเรื่องฝนตกหนักจนสะพานขาดและขอให้ใช้อาหารแมวมาล่อ แฟนใหม่นางเอกโทรมาพระเอกเป็นคนรับสายแล้วส่งต่อให้นางเอก แฟนใหม่พยายามถามนางเอกว่ายังมีอะไรรั้งนางเอกไว้อีกมั้ยแต่ลูกแมวโผล่ออกมาพอดี นางเอกเล่าเรื่องแมวแล้ววางสายไป แมวหลบหายไปอีกครั้งเพื่อนบ้านขอตัวกลับก่อน

สะพานขาดแถมมีลูกแมวอยู่ในบ้านทั้งสองคนเลยตัดสินใจทำสปาเก็ตตีกินกันเองที่บ้าน พระเอกเป็นคนเข้าครัวส่วนนางเอกขึ้นไปยืนสูบบุหรี่เดินไป-มาดูฝนตก นางเอกลงมาช่วยพระเอกทำต่อและขอให้พระเอกช่วยหั่นหัวหอมเพื่อทำสลัด พระเอกหั่นไปแล้วแสบตาจนน้ำตาไหลนางเอกให้พระเอกไปล้างตา<<<ตอนล้างตาน่าจะร้องจริงเพราะนิ่งไปนาน นางเอกจัดอาหารเสร็จลูกแมวก็ออกมาพอดี นางเอกพูดแบบที่พระเอกพูดมาตลอดทั้งเรื่อง “Everything is going to be OK” แล้วหนังก็ตัดจบ

เนื้อเรื่องสำหรับคนทั่วไปค่อนข้างน่าเบื่อบรรยากาศชวนอึดอัดตลอดทั้งเรื่อง จบได้อาร์ตมากๆคนไม่ชอบก็คงเลิกดูไปตั้งแต่กลางเรื่อง ชอบวิธีการนำเสนอของหนังเป็นการส่วนตัว ใช้อวัจนภาษาซะเป็นส่วนใหญ่ ต้องตีความหมายหลายตลบผู้กำกับน่าจะตั้งใจทำมากในทุกๆช็อต อธิบายไม่ถูกออกแนวการกระทำเสียงดังกว่าคำพูดดูจบแล้วเลยพูดไม่ออก ได้แต่เก็บมาคิดต่อเงียบๆคนเดียว “Everything is going to be OK” ประโยคเดียวกันแต่ความหมายต่างกัน……..ถอนหายใจยาวๆไล่คาร์บอนไดออกไซด์ออกจากสมอง

ชอบรูปนี้ มันสื่อถึงอารมณ์ของคนสองคนที่ไม่สามารถอธิบายได้

1911(2011)

ย่อๆแบบรวบรัดที่สุดในโลกเพราะตัวละครเยอะเกินเก็บรายละเอียดไม่ไหว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิงที่นำโดยดร.ซุนยัตเซนกับหวงซิง(แจ็คกี ชาน) หวงซิงนำทีมปฏิวัติแนวหน้าส่วนซุนยัตเซ็นทำหน้าที่ระดมทุน เรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆการปฏิวัติล้มเหลวบ่อยครั้งจนกระทั่งราชวงศ์เริ่มคิดจำนำทางรถไฟกับต่างชาติ ซุนยัตเซ็นเดินทางไปต่างประเทศพูดจนบรรดานายทุนจากประเทศต่างๆเริ่มลังเลที่จะให้จีนกู้เงิน หยวนซีไคที่เป็นนกสองหัวในตอนแรกเริ่มจับขั้วกับกลุ่มปฏิวัติจัดตั้งสาธารณรัฐแต่พอซุนยัตเซ็นชนะโหวตจนได้เป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาล หยวนซีไคก็เริ่มคิดแผนยึดครองอำนาจ หยวนซีไคเริ่มกลับไปยุทางราชวังให้กำจัดซุนยัตเซนแต่ทางราชวงศ์ประกาศสละราชบัลลังก์ซะก่อน ซุนยัตเซ็นลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเฉพาะกาลแล้วให้เงินกับราชวงศ์เพื่อลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ

The Sorcerer of White Snake(2011)


หลวงจีนฟาไห่(เจ็ท ลี)กับเหนิงเหรินลูกศิษย์ไล่ล่าจับปิศาจไปขังไว้ในเจดีย์เล่ยเฟิง ซู่ซู่ปิศาจงูขาวกับชิงชิงปิศาจงูเขียวเห็นพวกสุ่ยเซียนมาเก็บสมุนไพรบนเขา ชิงชิงแกล้งสุ่ยเซียนจนตกลงไปในน้ำซู่ซู่ตามลงไปช่วยและถ่ายทอดพลังลมปรานให้สุ่นเซียนด้วยการจูบ สุ่ยเซียนฟื้นขึ้นมาจำได้ว่ามีผู้หญิงช่วยไว้แต่เพื่อนๆยืนยันว่าไม่มี ที่งานเทศกาลซู่ซู่อยากพบสุ่ยเซียนอีกครั้งเลยให้ชิงชิงหาตัวสุ่ยเซียนและพาไปพบที่สะพาน ระหว่างนั้นชิงชิงได้เป็นเพื่อนกับเหนิงเหรินที่กำลังตามล่าปิศาจ ชิงชิงพาสุ่ยเซียนไปพบซู่ซู่ สุ่ยเซียนบอกกับซู่ซู่ว่ามีคนอยู่ในใจแล้วเป็นคนที่เคยช่วยชีวิตตัวเองไว้ ซู่ซู่ถามสุ่ยเซียนว่าถ้าได้จูบอีกครั้งจะจำได้มั้ยแล้วก็ผลักสุ่ยเซียนลงน้ำ ซู่ซู่กระโดดตามลงไปจูบสุ่ยเซียนอีกครั้งสุ่ยเซียนจำได้ว่าซู่ซู่คือคนเดียวกับที่ช่วยชีวิต

เหนิงเหรินปราบปิศาจค้างคาวแต่ดันถูกปิศาจกัดก่อนที่ฟาไห่จะมาช่วย ฟาไห่พาเหนิงเหรินกลับมาที่วัดแต่เหนิงเหรินกลายเป็นปิศาจค้างคาวและหนีออกจากวัดไป เหนิงเหรินคิดจะฆ่าตัวตายชิงชิงมาห้ามไว้และบอกว่าตัวเองก็เป็นปิศาจเหมือนกัน สุ่ยเซียนไม่อยากล่วงเกินซู่ซู่เลยอยากพบพ่อแม่ซู่ซู่เพื่อขอซู่ซู่แต่งงานตามประเพณี ชิงชิงเนรมิตบ้านร้างและให้พวกสัตว์ปลอมตัวเป็นคนหลอกสุ่ยเซียน พ่อแม่ปลอมยกซู่ซู่ให้สุ่ยเซียน ชิงชิงทำให้สุ่ยเซียนสลบก่อนที่พวกสัตว์จะกลับคืนร่าง ตอนนั้นฟาไห่ตามมาพอดีชิงชิงให้ซู่ซู่พาสุ่ยเซียนหนีไป ชิงชิงเกือบถูกฟาไห่ทำร้ายแต่เหนิงเหรินที่กลายเป็นปิศาจมาช่วยชิงชิงไว้ ฟาไห่ปล่อยให้เหนิงเหรินช่วยชิงชิงไป ต่อมาปิศาจจิ้งจอกอาละวาดฆ่าผู้คนฟาไห่ตามรอยและปราบปิศาจ สุ่ยเซียนพยายามต้มยาเพื่อช่วยรักษาคนซู่ซู่เห็นว่าสุ่ยเซียนเหนื่อยเลยถ่ายพลังลมปรานลงในหม้อยาให้สุ่ยเซียนนำไปใช้รักษาคนจนหาย ฟาไห่มาเจอรู้ว่าในยามีพลังลมปรานเลยถามสุ่ยเซียน สุ่ยเซียนบอกว่าช่วยกันต้มกับภรรยา ฟาไห่ให้กริชปราบปิศาจกับสุ่ยเซียนไว้ป้องกันตัว ฟาไห่เจอซู่ซู่และต่อสู้กันแต่ฟาไห่ไม่ได้ฆ่าซู่ซู่เพราะเห็นแก่ที่ซู่ซู่ช่วยถ่ายพลังลมปรานช่วยชีวิตคนแต่บอกให้ซู่ซู่ไปจากสุ่ยเซียนเพราะคนกับปิศาจอยู่ร่วมกันไม่ได้ ถ้าเจออีกครั้งจะกำจัดซู่ซู่

สุ่ยเซียนกลับมาบ้านพร้อมกับเหล้าและอาหารที่ชาวบ้านให้มาเพื่อตอบแทนที่สุ่ยเซียนช่วยรักษา ซู่ซู่ดื่มเหล้าเข้าไปปรากฏว่าเป็นเหล้าที่ใช้สำหรับไล่งู ซู่ซู่รีบเข้าไปในห้องปิดประตูก่อนจะกลับคืนร่างเดิม ซู่ซู่ให้สุ่ยเซียนพูดสิ่งที่เคยพูดก่อนแต่งงานอีกครั้ง ฟาไห่ตามมาพยายามกำจัดซู่ซู่ สุ่ยเซียนเห็นซู่ซู่ที่กลายเป็นงูคิดว่างูทำร้ายซู่ซู่เลยใช้กริชแทงงู งูขาวหายตัวไปฟาไห่บอกกับสุ่ยเซียนว่าซู่ซู่คือปิศาจงูและซู่ซู่ไม่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้อีก ชิงชิงจะถ่ายพลังลมปรานให้พี่สาวแต่ชิงชิงบำเพ็ญมาน้อยเกินไป หนูพูดได้บอกกับสุ่ยเซียนเรื่องหญ้าเซียนที่อยู่บนเจดีย์เล่ยเฟิง สุ่ยเซียนปีนขึ้นไปเอาหญ้าเซียนแต่หญ้าเซียนสร้างภาพลวงตาแยกออกเป็นหลายต้นเข้าทำร้ายสุ่ยเซียน สุ่ยเซียนจำได้ว่าหญ้าเซียนเผาไม่ไหม้เลยจัดไฟเผาตัวเองจนได้หญ้าเซียนมา พอสุ่ยเซียนเอาหญาเซียนไปทำให้ปิศาจที่ถูกขังอยู่ออกมาได้ สุ่ยเซียนให้หนูเอาหญ้าเซียนไปช่วยซู่ซู่ สุ่ยเซียนถูกปิศาจสิงร่างฟาไห่ตามมาสะกดไว้ทันแต่สุ่ยเซียนต้องเข้าพิธีขับไล่ปิศาจห้ามใครรบกวน

หลังจากซู่ซู่รู้จากหนูว่าฟาไห่จับตัวสุ่ยเซียนไว้ ซู่ซู่กับชิงชิงก็บุกวัด ซู่ซู่ขอให้ส่งตัวสุ่ยเซียนแต่ฟาไห่บอกว่าห้ามรบกวนพิธีซู่ซู่ไม่เชื่อต่อสู้กับฟาไห่และทำให้น้ำท่วมวัด เหนิงเหรินบินมาช่วยชีวิตพระที่กำลังจะจมน้ำ ซู่ซู่เข้าไปช่วยสุ่ยเซียนออกมาแต่สุ่ยเซียนจำซู่ซู่ไม่ได้ ซู่ซู่โกรธเลยเล่นงานฟาไห่ ชิงชิงถูกฟาไห่ทำร้ายบาดเจ็บสาหัสได้เหนิงเหรินมาช่วยไว้อีกครั้ง สุดท้ายซู่ซู่สู้ฟาไห่ไม่ได้เลยถูกขังไว้ในเจดีย์ ซู่ซู่สำนึกผิดแต่ขอเจอสุ่ยเซียนเป็นครั้งสดท้ายแล้วจะยอมถูกขังเพื่อบำเพ็ญตนลบล้างความผิด ฟาไห่เริ่มเข้าใจเลยช่วยยกเจดีย์ให้ซู่ซู่ออกมาพบกับสุ่ยเซียน ซู่ซู่จูบสุ่ยเซียนอีกครั้งสุ่ยเซียนจำได้ ซู่ซู่ก็ถูกดูดกลับเข้าไปในเจดีย์กลายร่างเป็นงูขาวอยู่ในนั้น สุ่ยเซียนมาคอยดูแลกวาดเจดีย์ที่ซู่ซู่ถูกขังอยู่ ชิงชิงไปจากเหนิงเหรินเพราะไม่เชื่อในเรื่องความรัก ตอนจบฟาไห่เข้าใจแล้วว่าปิศาจไม่ได้เลวไปหมดให้แอปเปิลกับเหนิงเหรินที่กลายเป็นปิศาจมาคอยบินวนเวียนตามฟาไห่

หามาให้ที่บ้านดูเลยเปิดดูเช็คแผ่นซะหน่อย สนุกกว่าที่คิดเยอะสเปเชียลเอฟเฟคเพียบภาพสวยมาก ภาคนี้ต่างจากที่เคยดูคือฟาไห่เป็นคนดีมีเหตุผลมากขึ้น ก็…นะเจ็ท ลีเล่นจะให้ร้ายก็คงดูไม่ค่อยดี ผิดคาดตรงที่ต้องเสียน้ำตาให้เรื่องนี้ทั้งๆที่รู้พล็อตอยู่แล้ว แต่เค้าทำออกมาซึ้งจริงๆ

The Incredible Hulk(2008)


บรูซ(เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน)อยู่ที่บราซิลเพื่อเรียนรู้ที่จะระงับความโกรธ ระหว่างนั้นก็ติดต่อออนไลน์กับบลูนักวิทยาศาสตร์ที่ช่วยบรูซคิดค้นวิธีการรักษาไม่ให้กลายร่างเป็นยักษ์เขียวอีกโดยบรูซใช้โค้ดเนมว่ากรีน  บรูซทำงานที่โรงงานผลิตน้ำอัดลมบังเอิญทำเลือดหยดใส่ปากขวดที่ถูกส่งไปอเมริกา คนที่ดื่มเข้าไปมีปฏิกิริยาทันที พอนายพลรอส(วิลเลียม เฮิร์ท)รู้ข่าวก็สั่งตามหาตัวบรูซที่บราซิลทันที นายพลรอสได้ตัวบลอนสกีที่เป็นมือดีมาร่วมทีมด้วย ทีมของบลอนสกีไล่ตามบรูซไปจนกระทั่งบรูซถูกบีบให้กลายเป็นยักษ์เขียวอีกครั้งแต่บรูซหนีรอดไปได้ นายพลรอสยอมเปิดเผยเรื่องการทดลองเกี่ยวกับบรูซกับบลอนสกี บลอนสกีขอให้ฉีดยาแบบเดียวกับบรูซให้ตัวเองเพื่อจะได้ต่อสู้กับบรูซได้แบบสูสี นายพลรอสยอมตกลง

บรูซเข้าเมืองมาหาเบทตี(ลิฟ ไทเลอร์)ที่ตอนนี้คบอยู่กับดร.แซมสันที่เป็นจิตแพทย์อนาคตไกล บรูซขอพักที่ร้านพิซซาที่รู้จักกัน บรูซแอบเข้าไปที่ห้องแล็บเพื่อขโมยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองแต่ข้อมูลถูกลบไปหมดแล้ว เบทตีมาที่ร้านขากลับเจอกับบรูซ เบทตีพาบรูซไปที่บ้านและให้ข้อมูลที่แอบเซฟมาก่อนที่ข้อมูลจะถูกลบกับบรูซ วันต่อมาบรูซถูกกองทัพของนายพลรอสกับบลอนสกีตามล่าเพราะดร.แซมสันเป็นคนแจ้งข่าว บรูซกลายร่างเป็นยักษ์เขียวและถูกบลอนสกีล่อให้เข้าไปติดกับคลื่นเสียงแต่บรูซทำลายเครื่องส่งสัญญาณทิ้ง บรูซเหวี่ยงบลอนสกีกระเด็นกระดูกหักไปทั้งตัว เบทตีพยายามเข้าไปหาบรูซแต่เกิดระเบิดขึ้น บรูซปกป้องเบทตีแล้วพาตัวเบทตีไป

บอลนสกีฟื้นฟูสภาพร่างกายได้จนกลายแป็นปกติและกลับมาเริ่มปฏิบัติการล่าตัวบรูซต่อ บรูซกับเบทตีหนีไปด้วยกันแต่ใช้บัตรเครดิตไม่ได้เบทตีเลยเอาสร้อยคอที่แม่ให้ไว้ไปจำนำ บรูซติดต่อบลูอีกครั้งและไปพบกับบลูซึ่งก็คือดร.สเติร์น บรูซขอให้สเติร์นทดลองฉีดยาที่สกัดขึ้นแต่ต้องทำให้บรูซกลายร่างเป็นยักษ์เขียวก่อน บรูซเริ่มอาละวาดเบทตีให้บรูซมองหน้าตัวเองแล้วตั้งสติปรากฏว่ายาใช้ได้ผล สเติร์นสกัดเลือดของบรูซที่บรูซส่งมาเอาไว้เพียบเพราะเชื่อว่าเลือดของบรูซใช้รักษาคนได้ ระหว่างนั้นพวกของนายพลรอสตามมาและบุกเข้าไปในห้องแล็บ บรูซถูกยิงยาสลบเบทตีถูกกันตัวออกไป บลอนสกีบังคับให้สเติร์นฉีดยาแบบเดียวกับบรูซให้ตัวเอง บลอนสกีเตือนว่าอาจกลายเป็นอสูรกายแต่บลอนสกีไม่สน บลอนสกีกลายพันธุ์และเริ่มทำลายเมือง

บรูซที่ถูกจับอยู่บนฮ.ขอร้องนายพลรอสขอเป็นคนจัดการกับบลอนสกี นายพลรอสยอมปล่อย บรูซกลายร่างเป็นยักษ์เขียวต่อสู้กับบลอนสกีและฆ่าบลอนสกีตายในที่สุด แล้วบรูซก็หนีไป ตัดไปที่บริติชโคลัมเบีย บรูซส่งสร้อยที่เบทตีเอาไปจำนำคืนให้เบทตี จากนั้นบรูซก็เริ่มฝึกสมาธิควบคุมตัวเองแต่ก็ยังกลายร่างอีก ก่อนจบนายพลรอสไปนั่งดื่มอยู่ที่บาร์ โทนี สตาร์ค(โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์)หรือไอรอนแมนมาชวนนายพลรอสก่อตั้งกองกำลัง <<<การทดลองในเรื่องมีสตาร์ค อินดัสทรีย์มาเกี่ยวข้องตลอด 

Hulk(2003)


เดวิด แบนเนอร์นักวิทยาศาสตร์ของกองทัพทำหารทดลองยาเพื่อใช้รักษาบาดแผล ทางกองทัพนำโดยรอส(แซม เอลเลียต)ไม่อนุญาตให้เดวิดทดลองกับคนเดวิดเลยแอบทดลองกับตัวเอง ต่อมาภรรยาของเดวิดตั้งท้องและคลอดลูกชาย เดวิดทดลองกับบรูซลูกชายของตัวเอง ต่อมมาแซมรู้ว่าเดวิดแอบทดลองกับคนเลยสั่งปิดโครงการ เดวิดระเบิดทำลายห้องแล็บทิ้งก่อนจะกลับมาที่บ้าน เดวิดทะเลาะกับภรรยาแล้วฆ่าภรรยาตาย เดวิดถูกจับไปขัง บรูซถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวเครนซเลอร์ ต่อมาบรูซกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่สนใจเรื่องเดียวกับพ่อ บรูซเพิ่งเลิกกับเบทตี รอส(เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี)แต่ยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานกัน โครงการของเบทตีกับบรูซถูกเร่งให้พรีเซนต์แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เกล็น ทาลบ็อท(จอช ลูคัส)ชวนให้เบทตีไปทำงานด้วยแต่เบทตีปฏิเสธ

เดวิดหนีออกจากที่คุมขังมาเป็นภารโรงที่ห้องแล็บของบรูซ เดวิดแอบเก็บเส้นผมของบรูซไปตรวจ DNA รู้ว่าบรูซเป็นลูกของตัวเองแถมยังรู้ด้วยว่ามีบางอย่างในตัวบรูซ ต่อมาเกิดอุบัติเหตุรังสีแกมมารั่วในห้องทดลอง บรูซถูกรังสีเต็มๆแต่กลับไม่เป็นอะไร คืนนั้นเดวิดมาหาบรูซและบอกว่าตัวเองเป็นพ่อของบรูซ เดวิดชักชวนให้บรูซเข้าร่วมปฏิวัติโลกแต่ถูกบรูซไล่ไป นายพลรอสนัดเจอเบทตีเพื่อถามเรื่องบรูซ ร่างกายของบรูซเริ่มเกิดปฏิกิริยา บรูซกลายเป็นมนุษย์ยักษ์ตัวเขียวควบคุมตัวเองไม้ได้พังท้องแล็บทิ้งก่อนจะกลับบ้านและคืนร่างเป็นคนปกติ บรูซเล่าให้เบทตีฟังแต่รอสมาที่บ้านบรูซเพื่อถามเรื่องเดวิดแต่บรูซจำอะไรไม่ได้เลย เบทตีไปที่บ้านเดวิดถามเรื่องที่เดวิดทำกับบรูซ หลังจากเบทตีกลับไปเดวิดให้สุนัขที่เดวิดปลูกถ่าย DNA ของบรูซจนกลายพันธุ์ไล่ตามไปทำร้ายเบทตี เดวิดโทรหาบรูซบอกเรื่องปล่อยสุนัขไปทำร้ายเบทตี บรูซกลายเป็นยักษ์เขียวทำร้ายเกล็นกับการ์ดที่มาคอยเฝ้าก่อนจะออกไปช่วยเบทตี

บรูซจัดการกับสุนัขกลายพันธุ์ช่วยเบทตีไว้จากนั้นก็กลับคืนร่าง เช้าวันต่อมาคนของนายพลรอสมายิงยาสลบใส่บรูซเพราะเบทตีติดต่อพ่อ บรูซถูกพาตัวไปยังห้องแล็บลับของกองทัพที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย(ประมาณ area 51) บรูซกลับไปที่บ้านเก่าและเริ่มจำได้ว่าตอนนั้นพ่อฆ่าแม่แล้วถูกจับตัวไป เบทตีพยายามหาทางช่วยบรูซแต่ถูกพ่อส่งกลับ เดวิดทำการทดลองกับตัวเองจนกลายเป็นคนที่สามารถดูดซับเอาสิ่งรอบๆตัวแล้วกลายเป็นสิ่งนั้นได้ เกล็นยั่วให้บรูซโกรธเพื่อให้บรูซกลายเป็นมนุษย์ยักษ์ตัวเขียวแล้วจับบรูซทดลองแต่บรูซไม่ยอม เกล็นเลยจับบรูซเข้าตู้กระตุ้นให้ชีพจรบรูซเต้นเร็วขึ้นจนกลายเป็นยักษ์เขียว บรูซทำลายห้องแล็บพังรอสเลยสั่งให้เปิดทางเพื่อต่อสู้กับบรูซข้างนอก รอสสั่งต่อสู้เต็มรูปแบบแต่บรูซหนีรอดไปได้ เบทตีกลับบ้านเจอเดวิดมารออยู่แล้ว เดวิดยอมมอบตัวเพื่อขอพบบรูซ

บรูซมุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อตามหาเบทตี รอสสั่งทำลายบรูซแต่เบทตีขอเพบกับบรูซ พอเบทตีปรากฏตัวบรูซก็สงบลงและกลับคืนร่างเดิม บรูซถูกจับไปอยู่บนแท่นที่สามารถปล่อยไฟฟ้าแรงสูงย่างสดบรูซได้ เดวิดถูกพามาพบบรูซ เดวิดเข้าไปคุยกับบรูซขอให้บรูซมอบพลังที่บรูซมีให้กับตัวเองเพื่อจะได้ครองโลก บรูซไม่ยอมเดวิดเลยดูดซับพลังไฟฟ้าแรงสูงเข้าไปในตัว บรูซกลายร่างเป็นยักษ์เขียวต่อสู้กับเดวิด ยิ่งบรูซต่อสู้เดวิดก็ยิ่งมีพลังมากขึ้น บรูซปล่อยพลังทั้งหมดใส่เดวิดจนเดวิดรับไม่ไหวกลายเป็นก้อนพลังสีเขียวขนาดใหญ่ รอสสั่งทำลายสุดท้ายเดวิดร่างระเบิดตาย บรูซกลับคืนร่างจมอยู่ในน้ำ หลังจากเหตุการณ์สงบลงทุกคนเข้าใจว่าบรูซตายแต่รอสยังคงติดตามแอบดักฟังทุกช่องทางเพราะเชื่อว่าถ้าบรูซยังมีชีวิตบรูซต้องติดต่อเบทตี ตัดไปกลางป่าบรูซเจอพวกโจรที่กำลังเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์แล้วบรูซก็เริ่มตาเป็นสีเขียว หนังตัดจบ

Conan the Barbarian(2011)


ยุคสมัยนึงพวกพ่อมดแกะสลักกระดูกของกษัตริย์เป็นหน้ากากแล้วใช้เลือดของลูกสาวบูชายันต์ทำให้วิญญาณร้ายมาสิงสู่และมอบพลังอำนาจชั่วร้ายทำลายทุกวัฒนธรรมแต่สุดท้ายพ่อมดถูกพวกคนเถื่อนปราบและทำลายหน้ากากจนแยกเป็นหลายส่วน จากนั้นแต่ละชนเผ่าก็แยกกันเก็บเศษกระดูกกระจายไปทั่วแต่มีคนคิดจะต่อหน้ากากกระดูกใหม่เพื่อยึดครองโลกอีกครั้ง โคแนนเกิดท่ามกลางสนามรบแม่ของโคแนนตั้งชื่อให้ก่อนสิ้นใจตาย พ่อของโคแนนเป็นหัวหน้าเผ่า โคแนนเข้ารับการทดสอบอมไข่ไว้ในปากวิ่งวนไปรอบภูเขาถ้ากลับมาถึงคนแรกโดยที่ไข่ไม่แตกจะได้เข้าร่วมรบ ระหว่างทางมีคนจากอีกเผ่าดักทำร้าย คนอื่นหนีกลับหมดแต่โคแนนไม่ยอมกลับ โคแนนต่อสู้และตัดหัวพวกนั้นกลับมาให้พ่อโดยที่ไข่ยังไม่แตก

พ่อของโคแนนสอนตีดาบและบอกเคล็ดลับว่าเหล็กกล้าต้องใช้ทั้งความร้อนและความเย็น ตอนนั้นโคแนนยังไม่เข้าใจพ่อบอกว่าโคแนนร้อนเกินไปยังไม่สมควรใช้ดาบ ต่อมาคาลาร์ ซิมบุกฆ่าคนในเผ่าของโคแนนและจับต้วพ่อของโคแนนไว้บังคับให้บอกที่ซ่อนเศษกระดูกชิ้นสุดท้าย โคแนนทนเห็นพ่อถูกทรมานไม่ไหวออกมาต่อสู้กับพวกของซิมแต่สู้ไม่ได้สุดท้ายโดนจับ ซิมใช้โคแนนต่อรองให้พ่อบอกที่ซ่อนชิ้นส่วนหน้ากาก จริงๆแล้วมาริคลูกสาวที่เป็นแม่มดของซิมก็สามารถหาเศษกระดูกได้ พ่อของโคแนนยอมสละชีวิตเพื่อช่วยโคแนนไว้ หลังจากนั้นพวกซิมจากไปพร้อมกับฆ่าคนในเผ่าของโคแนนตายหมดโคแนนสัญญากับตัวเองจะล้างแค้นให้ได้

โคแนนโตขึ้นเข้าร่วมกับอาร์ทุสที่เป็นโจรสลัดออกช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน โคแนนช่วยปลดปล่อยทาสระหว่างกำลังฉลองอีลาชานที่เป็นพวกโจรถูกตามล่า โคแนนจำคนที่มาตามล่าได้(คนที่โคแนนเคยตัดจมูกสมัยเด็ก)ว่าเป็นพวกที่ฆ่าพ่อเลยสวมรอยยอมโดนจับไปด้วย โคแนนช่วยคนในคุกและบังคับให้ลูกน้องของซิมบอกที่อยู่ซิม ก่อนแยกจากกันอีลาชานที่ติดหนี้ชีวิตโคแนนบอกให้โคแนนไปหาที่หมู่บ้านโจรถ้าต้องการความช่วยเหลือ โคแนนตามรอยพวกซิมที่กำลังตามหาสายเลือดบริสุทธิ์ของพ่อมดซึ่งก็คือทามารา โคแนนบุกเข้าไปคนเดียวและช่วยทามาราไว้ ก่อนหน้านี้อาจารย์ของทามาราทำนายไว้ว่าจะมีคนจากแดนเถื่อนช่วยพาทามารากลับไปส่ง ทามารากับโคแนนหนีลูกน้องของซิมไปสมทบกับพวกของอาร์ทุสบนเรือ พวกของซิมบุกมาอีกแต่โคแนนสามารถเอาชนะได้

โคแนนขอแยกไปล้างแค้นซิมและฝากให้ทามาราเดินทางไปต่อกับอาร์ทุส หลังจากส่งโคแนนขึ้นฝั่งอาร์ทุสให้ทามาราเอาแผนที่ไปให้โคแนน ทามาราตามโคแนนไปแล้วมีอะไรกัน เช้าวันต่อมาระหว่างที่ทามาราเดินทางกลับไปที่เรือของอาร์ทุสก็ถูกพวกของซิมจับตัวไป มาริคยืนยันกับพ่อว่าทามาราคือสายเลือดบริสุทธิ์ โคแนนไปหาอีลาชานขอให้ไปช่วยทามารา โคแนนกับอีลาชานแอบเข้าไปและสามารถฆ่าคนของซิมได้ โคแนนตามพวกซิมที่จับตัวทามาราขึงไว้เตรียมทำพิธีที่ถ้ำหัวกะโหลก ซิมกรีดเลือดของทามาราหยดใส่หน้ากากจากนั้นหน้ากากก็เริ่มมีชีวิตอีกครั้ง โคแนนตามมาต่อสู้กับซิม โคแนนช่วยทามาราและให้หนีไปแต่ทามาราถูกมาริคไล่ล่า โคแนนตัดมือและฆ่ามาริคตาย ทามาราเกือบตกจากสะพาน ซิมใช้เวทย์มนต์กับทามาราแต่ครั้งนี้โคแนนไม่ยอมแพ้ช่วยทามาราไว้ได้และผลักซิมตกบ่อลาวาตาย โคแนนไปส่งทามาราแล้วกลับไปที่หมู่บ้านเดิม โคแนนเจอเบ้าหลอมดาบของพ่อตอนนี้โคแนนรู้ตัววว่าพร้อมจะใช้ดาบแล้ว

50-50(2011)


อดัม(โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิท)อยู่กับเรเชลที่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านของอดัม ไคล์(เซท โรเกน)เพื่อนสนิทของอดัมแวะมารับอดัมไปทำงานพร้อมกันทุกวัน ไคล์ไม่ค่อยเห็นด้วยที่อดัมคบกับเรเชล อดัมเริ่มมีปัญหาที่หลังเลยไปหาหมอปรากฏว่าอดัมเป็นมะเร็งที่กระดูกสันหลัง หมอบอกว่าให้รักษาด้วยคีโมเพื่อรอดูอาการถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ต้องผ่าตัดซึ่งมีโอกาสรอด 50-50<<<ที่มาของชื่อเรื่อง อดัมกลับมาที่บ้านบอกเรื่องเป็นมะเร็งกับเรเชลและพร้อมจะเลิกกับเรเชลถ้าเรเชลต้องการ เรเชลบอกจะเป็นกำลังใจให้อดัม อดัมนัดพ่อที่เป็นอัลไซเมอร์กับแม่ที่เป็นห่วงอดัมมาก(จนอดัมอึดอัด)มาที่บ้านเพื่อบอกเรื่องที่เป็นมะเร็ง

 พอไคล์รู้ก็เริ่มพาอดัมออกเที่ยวใช้ชีวิตให้คุ้ม อดัมเข้ารับการบำบัดกับเคธี(แอนนา เคนดริค<<เจสซิกา ทไวไลท์)จิตแพทย์ที่อยู่ระหว่างทำวิทยานิพนธ์ป.เอก ต่อมาไคล์เห็นเรเชลจูบกับผู้ชายคนอื่นเลยถ่ายรูปมาให้อดัมดู อดัมไล่เรเชลออกจากบ้าน อดัมเริ่มสนิทกับผู้เข้ารับการรักษาด้วยคีโมที่เป็นชายแก่สองคนหลังจากได้คุยกับคนอื่นอดัมเริ่มทำใจยอมรับได้มากขึ้น เคธีเจออดัมนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์เพราะอดัมไม่มีรถ<<ปกติเรเชลเป็นคนขับมารับ อดัมไม่เคยและไม่กล้าขับรถ ระหว่างทางอดัมช่วยทำความสะอาดรถเคธีที่มีขยะเต็มไปหมด เคธีให้เบอร์โทรศัพท์กับอดัมเผื่อฉุกเฉิน อาการของอดัมไม่ดีขึ้นการรักษาด้วยคีโมไม่ได้ผลหมอตัดสินใจผ่าตัด วันนั้นอดัมเริ่มเข้าใจแม่ที่เป็นห่วงอดัมมากขึ้น อดัมขอไคล์ขับรถแล้วอดัมก็ขับไปชนนู่นนี่ อดัมสติแตกโทรหาเคธีจนเริ่มสงบลง คืนนั้นอดัมพาไคล์ที่เมาไปส่งที่บ้าน อดัมเจอหนังสือคู่มือโรคมะเร็งที่ไคล์อ่านอยู่ที่บ้าน

วันผ่าตัดไคล์ขับรถไปส่งอดัมที่พ่อกับแม่มารออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว อดัมบอกรักพ่อที่เป็นอัลไซเมอร์แล้วเข้ารับการผ่าตัด เคธีตามมารอที่หน้าห้องผ่าตัด แม่ของอดัมถามว่าอดัมพูดถึงแม่ยังไงแต่เคธีไม่ได้บอกเรื่องที่อดัมเคยเล่าว่าอึดอัดที่แม่เป็นห่วงมากเกินไป การผ่าตัดสำเร็จด้วยดีอดัมปลอดภัยและอาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนจบเคธีแวะมาหาอดัมที่บ้านแล้วทั้งสองคนก็เริ่มสานสัมพันธ์กันต่อ

One Day(2011)


เอมมา(แอน แฮททาเวย์)กับเด็กซ์เตอร์(จิม สเตอเกส)เกือบมีอะไรกันในคืนวันจบการศึกษา 15 กรกฎาคม 1988 จากนั้นก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันเรื่อยมา เวลาผ่านไปเอมมาเป็นพนักงานเสริฟคบอยู่กับเอียนนักแสดงตลกส่วนเด็กซ์เตอร์ออกเดินทางและมีแฟนไปเรื่อยๆ เอมมากับเด็กซ์เตอร์กลับมาเจอกันบ้างแต่ไม่บ่อย ทั้งสองคนไม่ได้ทำอะไรเกินเลยแต่ก็แหกกฎที่ได้วางไว้ทั้งหมด เด็กซ์เตอร์ทำรายการทีวีแต่พ่อของเด็กซ์เตอร์ไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการดำเนินชีวิตของเด็กซ์เตอร์เท่าไหร่ แม่ของเด็กซ์เตอร์ป่วยเป็นมะเร็งและตายในที่สุด

เอมมาย้ายไปอยู่กับเอียนแต่ยังคงไม่ลืมเด็กซ์เตอร์ที่เป็นชายในฝันตั้งแต่สมัยเรียน เด็กซ์เตอร์ถูกไล่ออกจากรายการจากนั้นก็ไปเจอและหมั้นกับซิลเวีย ต่อมาเด็กซ์เตอร์กับเอมมาเจอกันในงานแต่งงาน(ของคนอื่น) เด็กซ์เตอร์บอกเรื่องกำลังจะแต่งงานเพราะซิลเวียตั้งท้อง เด็กซ์เตอร์กับเอมมาจูบกัน ต่อมาซิลเวียนอกใจเด็กซ์เตอร์แล้วทั้งคู่ก็เลิกกัน เด็กซ์เตอร์ที่กำลังเสียใจมีอะไรกับเอมมาที่ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศส เด็กซ์เตอร์ตามเอมมาไปแต่เอมมามีแฟนเป็นนักดนตรี ระหว่างนั่งฟังเพลงเอมมาคิดได้เลยรีบไปตามเด็กซ์เตอร์แล้วทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตร่วมกัน เด็กซ์เตอร์เปิดร้านเล็กๆเอมมาอยากมีลูกกับเด็กซ์เตอร์

เด็กซ์เตอร์นัดดินเนอร์กับเอมมาแต่วันนั้นเอมมาถูกรถชนตาย เด็กซ์เตอร์เสียใจมากจนไปมีเรื่อง ซิลเวียมารับลูกกลับ เพราะลูกกลัวเด็กซ์เตอร์ เด็กซ์เตอร์กลับไปอยู่กับพ่ออีกครั้ง ในวันที่ 15 ก.ค.ของทุกปีเด็กซ์เตอร์ถือเป็นวันพิเศษของตัวเองกับเอมมา แล้วเด็กซ์เตอร์ก็เริ่มคิดได้และก้าวข้ามมันได้สำเร็จ เอียนแวะมาที่ร้านของเด็กซ์เตอร์คุยกันเรื่องเอมมา เด็กซ์เตอร์ย้อนคิดถึงคืนวันจบการศึกษา เด็กซ์เตอร์ไปที่ภูเขากับเอมมา ตัดมาที่ปัจจุบันเด็กซ์เตอร์พาลูกสาวมาที่ภูเขาที่เคยมากับเอมมา เด็กซ์เตอร์นึกย้อนกลับไปวันที่นั้นที่เอมมาบอกลาเด็กซ์เตอร์และมั่นใจว่าจะต้องได้เจอกันอีก แล้วหนังก็ตัดจบ

ดูไปเหมือนอ่านหนังสือประวัติชีวิตรักของเด็กซ์เตอร์กับเอมมา มารู้ทีหลังว่าเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือนั่นแหละ ก็ซึ้งๆดี คนมันคู่กันไม่ว่าต้องผ่านเรื่องราว ผู้คนมากมาย สุดท้ายก็ต้องกลับมาคู่กันแล้วสุดท้ายก็ต้องพลัดรากจากกันไปไม่ว่าทางใดก็ทางนึงอยู่ดี<<เรื่องนี้จากกันด้วยความตายที่มาถึงเร็วเกินไป……นี่แหละละครชีวิตจริง บางครั้งโชคชะตาก็ไม่ใช่ฟ้าลิขิตเสมอไปแต่เป็นคนที่ทำให้มันเกิดขึ้น

 

Ps ชอบโปสเตอร์เรื่องนี้ ดูแล้วมันคลาสสิคได้อารมณ์ดี

Setup(2011)

ย่อๆ พอดีดูไปทำอย่างอื่นไปด้วยจับใจความได้แค่นี้ ซอนเน(50 Cent)วินเซนต์(ไรอัน ฟิลลิป)และเดฟร่วมมือกันปล้นเพชร ตอนหลังวินเซนต์หักหลังเพื่อนยิงเดฟกับซอนเนแล้วขโมยเพชรหนีไป เดฟตายแต่ซอนเนรอด ต่อมาบิ๊ก(บรูซ วิลลิส)ชวนให้ซอนเนมาร่วมงานด้วย ซอนเนตกลงทำงานงานให้บิ๊กแล้วบังเอิญไปฆ่าลูกน้องบิ๊กที่มาคอยประกบซอนเนตาย ซอนเนเอาเงินของบิ๊กไปซ่อนไว้ ซอนเนออกตามล่าตัววินเซนต์เริ่มจากมีอาแฟนของวินเซนต์ที่ทำหน้าที่ขับรถไปส่งคนขนของวันที่ปล้นเพชร ซอนเนตามจนเจอตัววินเซนต์ วินเซนต์เองก็ถูกตามล่าจากคนที่วินเซนต์ไปขโมยเพชรมา มีอาถูกฆ่าตายวินเซนต์เตรียมตัวหนีและจ้างคนมาคุ้มกันตัวเอง ซอนเนบอกกับบิ๊กว่าเงินอยู่กับวินเซนต์เพื่อให้บิ๊กตามล่าวินซนต์ ซอนเนจับตัววินเซนต์ที่กำลังจะหนีได้แต่ซอนเนไม่ได้ฆ่าวินเซนต์ ตอนจบซอนเน่ส่งเงินใส่ในตุ๊กตาหมีไปให้กับครอบครัวของเดฟที่ถูกวินเซนต์หักหลังฆ่าตายไปตอนต้นเรื่อง